การปรับองค์การเพื่อป้องกันการขาดทุนที่ดีที่สุด (ข้อคิดเห็น)
Submitted by Anonymous on Thu, 2018-03-22 08:21
ประเภท:
ข้อคิดเห็นและชมเชยบริการ
เรียนผู้บริหารองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพมหานคร ผมขอเสนอให้ ขสมก โปรดพิจารณาด้วย อย่างที่หลายท่านรวมทั้งประชาชนคนไทยทุกท่านว่า องค์การ ขสมก ที่เป็นรัฐวิสาหกิจ ขาดทุนมากเป็นอันดับที่ 2 นั้น ผมขอเสนอวิธีที่จะทำให้การขาดทุนลดลง คือ การปรับรื้อระบบอย่างขุดรากถอนโคน ซึ่งมีแนวทางการแก้ไขดังนี้
1. กระเป๋ารถเมล์ พนักงานขับรถ และฝ่ายธุรกิจในองค์การ ในทุกเขตมีเยอะมากเกินไป และผมคิดว่า การลดการขาดทุนขององค์การ ขสมก คือ การลดจำนวนพนักงาน ให้เหลือน้อยที่สุด แล้วใช้เทคโนโลยีแทน เช่น เครื่องกดตํ๋ว หรือบัตรเข้ารถเมล์ เหมือนรถไฟใต้ดิน ที่ใช้แตะเครื่องแล้วที่กั้นก็เปิดออก หรือด้วยการลดจำนวนกระเป๋ารถเมล์ พนักงานขับรถ และฝ่ายธุรกิจในองค์การ ด้วยการสอบปฏิบัติ 20% ฝนข้อสอบ 80% หากจบต่ำกว่าปริญญาตรี การสอบนั้นควรสอบวิชาดังต่อไปนี้
ก. วิชาภาษาไทย ต้องการวัดความสามารถในการใช้ภาษา ข้อสอบจะต้องเป็นการอ่านบทความ แล้ววิเคราะห์ สังเคราะห์ การหาใจความสำคัญ ประโยคสนับสนุน และการใช้คำศัพท์ให้ถูกวิธี 20 ข้อ
ข. วิชาคณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ 30 ข้อ
1. สถิติและบัญชี เฉพาะฝ่ายธุรกิจ
2. คณิตศาสตร์ทั่วไป เช่น การหาผลบวกลบคูณหาร และสถิติ เฉพาะกระเป๋ารถเมล์
3. คณิตศาสตร์ทั่วไป เช่น การหาผลบวกลบคูณหาร และสถิติ และฟิสิกส์ เน้นการหาอัตราค่าเฉลี่ยในการเดินทาง m/s ยกกำลัง 2 เฉพาะพนักงานขับรถเมล์
ค. สังคมศาสตร์ 30 ข้อ ได้แก่ นโยบายสาธารณะและการวางแผน เหตุการณ์ปัจจุบันในไทยและทั่วโลก สถานที่ท่องเที่ยว ประวัติศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ ภูมิศาสตร์ คุณธรรม จริยธรรม ธรรมาภิบาล ระเบียบปฏิบัติราชการ จิตวิทยา กฎหมาย เน้นการวิเคราะห์ การใช้ตรรกะในการตีโจทย์และหาคำตอบ เช่น นาง ก. มีอคติต่อบุตร จึงได้ตัดหางปล่อยวัด เมื่อบุตรขึ้นรถนาง ก. นาง ก. กลับไม่ต้อนรับบุตร โดยขับไล่บุตรออกจากรถ นาง ก. มีความผิดตามระเบียบปฏฺิบัติราชการ หลักคุณธรรม จริยธรรม ธรรมาภิบาล กฎหมายฉบับใด ใจความสำคัญว่าอย่างไร?
ง. การใช้เทคโนโลยี ได้แก่ การใช้โปรแกรม Office / ระบบคอมพิวเตอร์เบื้องต้น 10 ข้อ
ฉ. ภาษาต่างประเทศ ได้แก่ ภาษาอังกฤษ ภาษาจีน ภาษาพม่า ภาษาลาว ภาษาเขมร 30 ข้อ (ยกเว้นฝ่ายธุรการ ภาษาอังกฤษ 30 ข้อ) เป็นข้อสอบลักษณะวิเคราะห์เหตุการณ์เป็นภาษาต่างประเทศ หรือบทสนทนา หรือการอ่านตีความ ไม่เอาการใช้หลักไวยกรณ์ เพราะเป็นการท่องจำ ซึ่งคนไทยเป็นบ่อย และข้อสอบจะต้องเปลี่ยนทุกปี เพื่อป้องกันข้อสอบง่าย และเกิดการดูถูกว่า สอบง่ายๆ การตัดเกณฑ์นั้น ให้ถือเกณฑ์ดังนี้
ข้อสอบ 120 ข้อ 2 ชั่วโมง 30 นาที ได้ 0-71 ถูกปลดออก และได้เงิน 1 แสนบาท และไม่มีสิทธิในการเบิกค่าเล่าเรียน // 72-84 ถูกลดตำแหน่งเหลือ กระเป๋ารถเมล์ // 85-115 คงตำแหน่งเดิม // 116-120 ใช้สิทธิ์เลื่อนขั้น เช่น จากกระเป๋ารถเมล์เป็นพนักงานขับรถ หรือจากกระเป๋ารถเมล์เป็นธุรการ
การทำลักษณะเช่นนี้ เป็นการกระตุ้นให้พนักงาน ขสมก. ฝึกทักษะดังกล่าวจนเชี่ยวชาญอีกประการหนึ่ง อีกทั้งเราจะได้บุคลากรที่มีคุณภาพ มีประสิทธิภาพ การสอบเช่นนี้ให้มีทุก 6 เดือน การสอบให้สอบ 7 วัน ตามลำดับปีที่ทำงาน และเน้นย้ำว่า ข้อสอบต้องเปลี่ยนทุกครั้ง เพื่อรักษามาตรฐานองค์กรนี้ครับ
2. พนักงานคนใดที่เป็นโรคร้ายแรง เช่น เบาหวาน หอบ หลับใน ภูมิแพ้ โรคซึมเศร้า ให้ปลดทันทีและได้รับเงินหนึ่งแสนบาท หากโกหก หรือตรวจเจอภายหลัง นอกจากปลดแล้ว ให้มีความผิดทางกฎหมาย ฐานให้ข้อมูลเท็จ เพราะจะต้องมีใบรับรองทางการแพทย์ และแพทย์จะต้องระบุตามความเป็นจริง
3. หากพนักงานมีพฤติกรรมไม่ดีกับผู้ใช้บริการ และผู้ใช้บริการแจ้ง ให้ตั้งคณะกรรมการพิจารณาความประพฤติ
4. ผมเห็นว่าควรลดจำนวนคนขับรถ ขสมก. แล้วใช้รถเมล์ไร้คนขับ เหมือนประเทศสิงคโปร์ที่ได้ทดลอง นี่จะเป็นวิธีหนึ่งที่ดีที่สุดในการลดจำนวนบุคลากร
5. ผมเห็นว่าควรกระจายบุคลากรใน ขสมก. สู่ภูมิภาค โดยใช้การสอบตามข้อ 1 และตัดสิทธิ์การเบิกเงินค่าเล่าเรียน ค่าสุขภาพ เพราะทำให้รัฐขาดทุนมาก เนื่องจาก พนักงาน บุคลากรเยอะมาก สมัครมาก จนไม่มีเงินมาพัฒนาชาติ แต่มาพัฒนาครอบครัวรัฐวิสาหกิจ และกำลังถูกมองว่า ไม่มีการเข้าสอบ พนักงานเยอะ ทำให้รัฐต้องหมดเงินมาก ดังนั้นควรตัดสิทธิพิเศษนี้ทิ้ง
6. พนักงานทุกคนต้องสอบการวิ่ง 2.5 กิโลเมตร ภายใน 10 นาที วิ่งอ้อมหลัก ดันพื้น 30 วินาที ลุกนั่ง 30 วินาที หาค่าดัชนีมวลกายทุกครั้ง บททดสอบละ 5 คะแนน หากใครได้ต่ำกว่า 15 คะแนน ถูกย้ายไปต่างจังหวัดตามคำสั่งเขต เพราะคนที่จะเป็นกระเป๋ารถเมล์ ต้องมีสุขภาพดี และจุดนี้จะเป็นการวัดที่ชัดเจนว่าคุณสุขภาพดีหรือเปล่า เช่น วิ่ง 2.5 กิโลเมตร ถ้าหอบเหมือนคนหอบ ก็แปลว่าเป็นโรคหอบ ไม่สมควรอยู่กรุงเทพมหานคร ควรย้าย เช่น ย้ายไปทำงานภาคใต้ เพราะไม่มีอากาศหนาว โรคหอบจะไม่กำเริบ แต่ถ้าเป็นโรงคหอบอยู่กรุงเทพมหานคร จะเสียชีวิตเร็วขึ้นและเป็นอุปสรรคในการตอบสนองบริการพี่น้องประชาชน
จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณาด้วยครับ