ข่าวฉบับที่ 022/2568 ประจำวันที่ 31 มกราคม 2568

ข่าวฉบับที่ 022/2568                                                              

ประจำวันที่ 31 มกราคม 2568

 

ขสมก. สรุปผลตามแผนปฏิบัติการแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 ของกระทรวงคมนาคม

ประชาชนขึ้นรถเมล์ฟรี 7 วัน พบผู้โดยสารเพิ่มขึ้นสูงสุด 43.75%

......................................................................................

 

ตามที่ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้มีข้อสั่งการ เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2568 ให้ทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม (คค.) ที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) ดำเนินการตามแผนปฏิบัติการแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 ของภาคคมนาคมในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลตลอดจนการดำเนินงานตามข้อสั่งการนายกรัฐมนตรีโดยมีมาตรการให้ประชาชนโดยสารรถไฟฟ้า และรถโดยสารสาธารณะองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพฟรี ระหว่างวันที่ 25 - 31 มกราคม 2568 และให้องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพเร่งรัดดําเนินมาตรการ ตรวจสอบและห้ามใช้ยานพาหนะที่ปล่อยควันดําเกินกว่ามาตรฐานที่กฎหมายกําหนด รวมถึงการดําเนินการตามมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 จนกว่าสถานการณ์ฝุ่นละออง PM 2.5 จะคลี่คลาย

​​นายกิตติกานต์ จอมดวง จารุวรพลกุล ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ กล่าวว่า องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ได้ดำเนินการตามข้อสั่งการของ นายสุรพงษ์  ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม จึงได้ประชุมกำหนดมาตรการต่างๆ ร่วมกับผู้บริหารของ ขสมก. สหภาพแรงงานรัฐวิสากิจและบริษัทเหมาซ่อม เพื่อมอบหมายแนวทางการดำเนินงานการป้องกัน PM 2.5 ทั้งกระบวนการบำรุงรักษา ได้แก่ การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องและการเปลี่ยนไส้กรองอากาศ การนำเข้าข้อมูลรถโดยสารประจำทางบันทึกในระบบบัญชีสีเขียว (Green List) และจัดส่งสายตรวจพิเศษลงพื้นที่ตรวจสอบรถโดยสารควันดำในเส้นทางอย่างสม่ำเสมอ ในส่วนการสุ่มตรวจสอบควันดำหากพบค่าควันดำเกินร้อยละ 20 ให้นำรถโดยสารเข้าตรวจสอบและแก้ไขทันทีพร้อมนำทีม ลงพื้นที่ควบคุมการตรวจวัดควันดำตามนโยบายของรัฐบาล ที่กำหนดมาตรการส่งเสริมการใช้รถสาธารณะและลดการใช้รถยนต์ส่วนบุคคล และเน้นย้ำการกวดขันรถควันดำ โดยเฉพาะรถโดยสารสาธารณะ เพื่อเป็นการช่วยลดฝุ่นละอองจากยานพาหนะ  

นอกจากนี้ ขสมก. ได้ร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง  อาทิ สำนักสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานคร กรมควบคุมมลพิษ และกรมการขนส่งทางบก เพื่อสุ่มตรวจควันดำทั้งภายในและภายนอกอู่จอดรถโดยสาร เพื่อสุ่มตรวจควันดำทั้งภายในและภายนอกอู่จอดรถโดยสาร เมื่อวันที่  28  มกราคม 2568 ณ อู่บางเขน โดยไม่พบรถโดยสารประจำทางของ ขสมก. ที่มีควันดำเกินมาตรฐาน

 

องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ จึงสรุปขอรายงานผลการดำเนินงานเพื่อป้องกัน และแก้ไขปัญหฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) ในแต่ละประเด็น ดังนี้ 

1. มาตรการป้องกันรถโดยสารประจำทางปล่อยควันดำเกินกว่ามาตรฐานที่กฎหมายกำหนด โดยดำเนินการเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง  

1.1  ตรวจวัดควันดำรถโดยสารทุกคัน ทุกวัน ทั้งกะเช้าและกะบ่าย ก่อนนำรถโดยสารออกให้บริการประชาชน หากพบรถโดยสารที่มีค่าควันดำเกินร้อยละ 30 ต้องงดใช้งานและนำเข้าแก้ไขทันที

1.2 กำชับทีมเหมาซ่อมและเจ้าหน้าที่ตรวจรับรถโดยสาร ให้เพิ่มความเคร่งครัดในการดูแล และบำรุงรักษารถโดยสารอยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน ไม่ก่อให้เกิดมลภาวะหรือฝุ่นละออง

1.3  ให้ตรวจการเขตการเดินรถที่ 1-8 และสายตรวจพิเศษ ลงพื้นที่ตรวจสอบรถโดยสารควันดำในเส้นทางอย่างสม่ำเสมอ หากพบให้แจ้งผู้บังคับบัญชา เพื่อนำรถโดยสารเข้าตรวจสอบและแก้ไขทันที

1.4  ปรับตั้งระยะห่างวาล์วไอดี-ไอเสีย และปรับตั้งรอบเครื่องยนต์

1.5  ตรวจเช็คหัวฉีดและปั๊มเชื้อเพลิงตามแผนการซ่อมบำรุง  

1.6  เปลี่ยนไส้กรองอากาศ  ไส้กรองน้ำมันเชื้อเพลิง และเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง  ตามแผนการซ่อมบำรุง  

​​2.  มาตรการส่งเสริมการใช้รถสาธารณะและลดการใช้รถยนต์ส่วนบุคคล โดยการจัดเดินโดยสารให้บริการฟรีทุกเส้นทาง ในระยะเวลา 7 วัน ตั้งแต่วันที่ 25-31 มกราคม 2568 จำนวน 2,883 คัน แบ่งเป็นรถโดยสารธรรมดา จำนวน 1,519 คัน รถโดยสารปรับอากาศ จำนวน 1,364 คัน  

     2.1  การเพิ่มเที่ยววิ่ง เปรียบเทียบก่อนและหลังมาตรการ เพิ่มขึ้นสูงสุด 866 เที่ยว คิดเป็นร้อยละ 5.93

     2.2  ปริมาณผู้ใช้บริการ เปรียบเทียบก่อนและหลังมาตรการ เพิ่มขึ้นสูงสุด 181,473 คน คิดเป็นร้อยละ 43.75

ทั้งนี้ ขสมก. ได้ตระหนักถึงสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็กหรือ PM 2.5 เกินค่ามาตรฐาน และมีความห่วงใยในความปลอดภัยของประชาชน รวมถึงพนักงานขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพและการดำเนินชีวิตประจำวัน ซึ่ง ขสมก. จะดำเนินการตามมาตรการต่อไป เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยลดปัญหามลภาวะอย่างยั่งยืนต่อไป

 

......................................................................................

 

ภาพประกอบ: 
1