ขอร้องเรียนการบริหารของผู้อำนวยการและคณะผู้บริหาร 1. ควรติดตั้ง GPS กับรถทุกคันเพื่อให้สอดคล้องการแอ๊ป VIA Bus เนื่องจากทางภาคเอกชนให้ช่วยสนับสนุนคิดค้นแอ๊ปที่ดีมีประโยชน์ใช้งานได้จริงมาให้แล้วแต่ทาง ขสมก กลับติดตั้ง GPS แค่รถเมล์บางส่วน โดยเฉพาะรถรุ่นใหม่ปรับอากาศคันสีฟ้ากลับไม่มี GPS ซึ่งปกติควรจะมีในรถใหม่ เพื่อให้ผู้โดยสารสามารถประมาณระยะเวลาในการรอรถเมล์ หรือถ้าเห็นว่าอีกนานรถคันที่ต้องการขึ้นจะมาจะได้เปลี่ยนเส้นทาง หรือเปลี่ยนเป็นการเดินทางวิธีอื่นแทน เพื่อลดปัญหาการร้องเรียนเรื่องรอรถนาน รถขาดระยะ (ผมเชื่อว่าการติดต้อ GPS ถูกกว่า ติดตั้งเครื่องแตะบัติและหยอดเหรียญอัตโนมัติหลายเท่ามากๆ) 2. ควรพิจารณาการอนุมัติโครงการเครื่องแตะบัตร และเครื่องหยอดเหรียญอัตโนมัติ ซึ่งเป็นโครงการที่เสียงลประมาณจำนวนมหาศาลนับ พันล้าน แต่ปัจจุบันเป็นเพียงอนุสรณ์สถานบนรถเมล์ เช่นเดียวกับค่าโง่ทางด่วน ซึ่งโครงการดังกล่าวแค่คิดก็ผิดแล้ว เพราะในความเป็นจริงที่ผู้บริหารไม่ได้สัมผัสด้วยตัวเอง คาดว่าจะยกระดับให้เหมือนต่างประเทศ โดยใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยให้ดูดีทันสมัย แต่ทุกวันนี้รถไม่พอคนแน่นเบียดเสียดกันยิ่งกว่าปลากระป๋องจนปิดประตูไม่ได้ จนพนักงานเก็บค่าโดยสารต้องขอให้รอขึ้นรถคันถัดไป รถติด เป็นไปไม่ได้เลยที่จะให้ผู้โดยสารทีละคนมาคอยหยอดเหรียญหรือแตะบัตร จริงอยู่ที่ไม่สามารถทำถึงขั้นประชาพิจาร แค่เพียงสอบถามขอความคิดเห็นจากพนักงานของท่านเอง ไม่ว่าจะเป็นพนักงานขันรถ หรือเก็บค่าโดยสาร ก็เพียงพอในการตัดสินใจแล้ว แต่คณะผู้บริหารจนถึงผู้อำนวนการกลับอนุมัติจนเกิดความเสียหาย จนทำให้ประชาชนบางส่วนอาจคิดว่าการอนุมัติไม่โปร่งใส 3. การอนุมัติสั่งซื้อรถรุ่นใหม๋ รถปรับอากาศคนสีฟ้า กลับมีพื่้นที่ต่างระดับถึง 4 ระดับ ซึ่งส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย โดยเฉพาะเด็กและคนชรา เพราะแค่ผู้ใหญ่ปกติธรรมดายืนโหนรถเมล์ เกิดเบรคกะทันหันสำหรับรถที่มีระดับเดียวเช่นรถปรับอากาศสีฟ้ารุ่นเก่า ยังได้ได้บาดเจ็บหาล้ม เจ็บข้อมือกันอยู่เลย วอนให้คณะผู้บริหารใช้วิจารณญาณให้การตัดสินใจอนุมัติซื้อรถเมล์ครั้งต่อไปในเรื่องความปลอดภัยที่สอดคล้องกับการใช้จริงของผู้โดยสาร 4. การขึ้นค่าโดยสารเนื่องจากต้นทุนสูง หรือเพราะนำรายได้ที่เพื่มขึ้นมาทดแทนที่เสียหายนับพันล้านกับโครงการเครื่องแตะบัตรและหยอดเหรียบอัตโนมัติ 5. ควรจัดระเบียบการปล่อยรถ เพิ่มจำนวนรถ ให้เหมาะสมเพียงพอในแต่ละเส้นทาง เช่นบางสายมีรถมาทุก 10 นาทีหรือมาซ้อนคันกันเป็นประจำ เช่น 140 แต่บางสายต้องรอประมาณ 1 ชั่วโมงหรือกว่านั้นถึงจะมา เช่น 195 ปลายทางบางปะกอก และเดอะมอล์ท่าพระ เพราะขั้นต่ำแต่ละสายควรมีรถมาทุก ๆ 20 นาที ถ้าในช่วงเร่งด่วนควรปล่อยรถถี่กว่านั้นตามความเหมาะสมกับจำนวนผู้โดยสารในแต่ละเส้นทาง รวมถึงมารยาทในการขับรถ (ขับเร็ว ขับกระชาก เร่งปิดประตู เพื่อให้ครบรอบจนเป็นอันตรายต่อผู้โดยสาร ไม่จอดป้าย และอื่นๆ) และควรลงโทษกับพนักงานขับรถหรือพนักงานเก็บค่าโดยสารอย่างจริงจังเพื่อไม่ให้เกิดเหตูการณ์เดิมซึ่งอีก และตอบแทนในรูปแบบโบนัส การขึ้นเงินเดือนหรืออื่น ๆ กับพนักงานขับรถและเก็บค่าโดยสารที่ได้รับคำชมเชยจากผู้่โดยสารเพื่อเป็นกำลังใจ และแบบอย่างที่ดีกับพนักงานอื่น ๆ จะได้ปฏิบัติตาม 6. สุดท้ายนี้ฝากผู้อำนวนการและคณะผู้บริหารช่วยปรับปรุงการบริหาร เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายรถณรงค์ให้ประชาชนมาใช้รถประจำทางแทนใช้รถส่วนตัว โดยคำนึงถึงการใช้งานได้จริง เหมาะสมกับวัฒณธรรม ชีวิตความเป็นอยู่ของคนในประเทศไทย อย่าเพียงแต่ยึดติดกับความทันสมัย เทคโนโลยี หรือเลียนแบบจากต่างประเทศ