ข่าวฉบับที่ 017 /2565 ประจำวันที่ 26 กรกฎาคม 2565 ขสมก. จัดแผนเดินรถรองรับการเดินทางของประชาชน ช่วงวันหยุดต่อเนื่องวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

ข่าวฉบับที่ 017 /2565 ประจำวันที่ 26 กรกฎาคม 2565
ขสมก. จัดแผนเดินรถรองรับการเดินทางของประชาชน ช่วงวันหยุดต่อเนื่องวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ข่าวฉบับที่ 017 /2565 ประจำวันที่ 26 กรกฎาคม 2565
ขสมก. จัดแผนเดินรถรองรับการเดินทางของประชาชน ช่วงวันหยุดต่อเนื่องวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 
     นายกิตติกานต์ จอมดวง จารุวรพลกุล ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ เปิดเผยว่า
ด้วยในวันพฤหัสบดีที่ 28 กรกฎาคม 2565 เป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ประกอบกับรัฐบาลประกาศให้ วันศุกร์ที่ 
29 กรกฎาคม 2565 เป็นวันหยุดราชการกรณีพิเศษ ส่งผลให้มีวันหยุดต่อเนื่อง จำนวน 4 วัน ตั้งแต่วันที่ 
28 - 31 กรกฎาคม 2565  ซึ่งประชาชนนิยมเดินทางกลับภูมิลำเนา หรือท่องเที่ยวต่างจังหวัดเป็นจำนวนมาก  ขสมก. จึงได้จัดแผนการเดินรถโดยสาร รองรับการเดินทางของประชาชน ตั้งแต่วันที่ 28 กรกฎาคม - 
1 สิงหาคม 2565 เพื่ออำนวยความสะดวก ปลอดภัย สร้างความมั่นใจให้กับประชาชนผู้ใช้บริการ
โดยมีรายละเอียด ดังนี้
     1. ในเส้นทางปกติ จัดรถออกวิ่ง เฉลี่ยวันละ 2,739 คัน จำนวน 17,301 เที่ยว
     2.  จัดเดินรถ AIRPORT BUS เชื่อมต่อท่าอากาศยาน จำนวน 5 เส้นทาง รวม 46 คัน ดังนี้
     -  สาย A 1  ท่าอากาศยานดอนเมือง - สถานีรถไฟฟ้า BTS จตุจักร เฉลี่ยวันละ 15 คัน
     -  สาย A 2  ท่าอากาศยานดอนเมือง - อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เฉลี่ยวันละ 12 คัน
     -  สาย A 3  ท่าอากาศยานดอนเมือง - สวนลุมพินี เฉลี่ยวันละ   7 คัน
     -  สาย A 4  ท่าอากาศยานดอนเมือง - สนามหลวง เฉลี่ยวันละ   7 คัน
     -  สาย S 1   ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ - สนามหลวง   เฉลี่ยวันละ   5 คัน
     3.  จัดเดินรถเชื่อมต่อสถานีขนส่งกรุงเทพ จำนวน 5 สถานี รวม 34 เส้นทาง ดังนี้   
     -   สถานีขนส่งกรุงเทพ (จตุจักร) จำนวน 12 เส้นทาง ได้แก่ สาย 3, 16, 49, 77, 96, 134, 136, 138, 145, 509, 517, และ 536 
     -  สถานีขนส่งกรุงเทพ (เอกมัย) จำนวน 8 เส้นทาง ได้แก่ สาย  2, 23, 25, 71, 72, 501, 508 และ 511
     -  สถานีขนส่งกรุงเทพ (สายใต้ใหม่) จำนวน 6 เส้นทาง ได้แก่ สาย 66, 79, 511, 515, 516 และ 556 
     -  สถานีรถไฟหัวลำโพง จำนวน 6 เส้นทาง ได้แก่ สาย 4, 21, 25, 34, 73 และ 501
     -  สถานีกลางบางซื่อ จำนวน 2 เส้นทาง ได้แก่ สาย 49 และ 67
มาตรการความปลอดภัย
     ด้านพนักงานประจำรถ 
     1. กำกับดูแลพนักงานขับรถโดยสารให้ปฏิบัติหน้าที่ตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด รวมทั้ง
ให้พนักงานเก็บค่าโดยสาร ดูแลการขึ้น - ลงของผู้ใช้บริการอย่างใกล้ชิด ให้บริการด้วยความสุภาพเรียบร้อย
     2.  ตรวจวัดแอลกอฮอล์  ความดันโลหิต และอุณหภูมิร่างกายของพนักงานขับรถ 
และพนักงานเก็บค่าโดยสารทุกครั้ง ก่อนขึ้นปฏิบัติหน้าที่บนรถโดยสาร พร้อมทั้งกำชับพนักงานขับรถและพนักงานเก็บค่าโดยสาร สวมหน้ากากอนามัยทุกครั้ง ขณะปฏิบัติหน้าที่บนรถโดยสาร
     3.  ให้พนักงานขับรถตรวจสอบความพร้อมของรถโดยสาร  และอุปกรณ์ส่วนควบ ก่อนนำรถ
ออกให้บริการ ประสานผู้รับเหมาซ่อมรถ ตรวจเช็คสภาพรถโดยสาร และซ่อมบำรุงรักษารถให้อยู่ในสภาพใช้งานได้ดี 
     4.  จัดพนักงานนายตรวจ และเจ้าหน้าที่สายตรวจพิเศษประจำจุด ณ ป้ายหยุดรถโดยสาร ที่มีผู้ใช้บริการหนาแน่น เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการจราจร และดูแลการขึ้น – ลงรถของผู้ใช้บริการ
     ด้านรถโดยสารประจำทาง
     1.  เพิ่มความถี่ในการล้างทำความสะอาดระบบปรับอากาศ และการทำความสะอาดผ้าม่าน
     2.  ใช้ผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อโรคที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ 70% ฉีดพ่นทำความสะอาดภายในรถโดยสาร และใช้ผลิตภัณฑ์ดังกล่าว เช็ดทำความสะอาดอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ผู้ใช้บริการต้องสัมผัส เช่น เบาะที่นั่ง ราวจับ กริ่งสัญญาณ เป็นต้น พร้อมทั้งติดตั้งขวดเจลแอลกอฮอล์ สำหรับให้ผู้ใช้บริการล้างมือบริเวณประตูทางขึ้น
     3.  ติดตั้ง QR Code แอปพลิเคชัน“ไทยชนะ”บริเวณหลังเบาะที่นั่ง และบริเวณผนังด้านข้าง ภายในรถโดยสาร สำหรับให้ผู้ใช้บริการสแกนผ่านโทรศัพท์แบบสมาร์ทโฟน เพื่อเก็บข้อมูลการเดินทาง กรณีตรวจพบผู้ติดเชื้อใช้บริการรถโดยสารคันเดียว และเวลาเดียวกันกับผู้ใช้บริการ จะมีการแจ้งเตือน ผ่านระบบ SMS ว่าผู้ใช้บริการมีความเสี่ยงให้รีบไปพบแพทย์
     4.  ติดตั้งป้ายข้อความ “เหลือรถอีก 2 คันสุดท้าย”  “เหลือรถอีก 1 คันสุดท้าย” “รถคันสุดท้าย” 
บริเวณกระจกด้านหน้ารถโดยสารที่วิ่งให้บริการ 3 คันสุดท้ายในแต่ละวัน 
     ด้านผู้ใช้บริการ
     1.  ขอความร่วมมือผู้ใช้บริการ สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ขณะใช้บริการรถโดยสาร
     2.  ล้างทำความสะอาดมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ ที่ติดตั้งบริเวณประตูทางขึ้น
     3.  เพื่อประโยชน์ของผู้ใช้บริการ ควรสแกน QR Code แอปพลิเคชัน“ไทยชนะ”บนรถโดยสาร เพื่อเช็คอินเมื่อขึ้นรถ และเช็คเอาท์ก่อนลงจากรถ สำหรับผู้ถือบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ของ ขสมก. ทุกประเภท  ควรลงทะเบียนบัตรที่ www.bmta.co.th เพื่อให้บัตรดังกล่าว สามารถเช็คอิน - เช็คเอาท์ โดยอัตโนมัติ เมื่อนำบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ มาแตะที่เครื่อง EDC เพื่อชำระค่าโดยสาร
     4. ผู้ใช้บริการจะต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของพนักงานเก็บค่าโดยสาร นายตรวจ และเจ้าหน้าที่สายตรวจพิเศษอย่างเคร่งครัด 
     5.  ขอความร่วมมือผู้ใช้บริการ ชำระค่าโดยสารแบบไร้เงินสด ผ่านบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ทุกประเภทของ ขสมก. บัตรเดบิต - เครดิตที่มีสัญลักษณ์คอนแทคเลส บัตรสวัสดิการแห่งรัฐและโมบายแบงก์กิ้ง  
เพื่อลดการสัมผัสธนบัตรและเหรียญกษาปณ์ ที่อาจเป็นสื่อกลางในการแพร่เชื้อโรคฯ
     นอกจากนี้ ขสมก. ได้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการเดินรถ ได้แก่  ศูนย์วิทยุรัชดา  สำนักงานใหญ่องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ  ศูนย์วิทยุเขตการเดินรถที่ 1 - 8  ตั้งแต่วันที่ 28 กรกฎาคม - 1 สิงหาคม 2565 และจัดเจ้าหน้าที่ Call Center 1348  ให้บริการด้านข้อมูลข่าวสารในการเดินรถอีกด้วย
ภาพประกอบ: 
ข่าวฉบับที่ 017 /2565 ประจำวันที่ 26 กรกฎาคม 2565-1
ข่าวฉบับที่ 017 /2565 ประจำวันที่ 26 กรกฎาคม 2565-2