รถเมล์ที่ให้บริการส่วนใหญ่มีสภาพเก่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งรถของ ขสมก และรถร่วมบริการชนิดไม่ปรับอากาศ ซึ่งในรถมีสภาพเก่าไม่ได้รับการดูแล ภายในร้อนอบอ้าวมาก ร่วมกับควันท่อไอเสียที่เข้ามาในตัวรถ สภาพแบบนี้มีมาเป็นหลายสิบปี และเป็นหนึ่งในเหตุผลที่คนกรุงเทพส่วนใหญ่เลือกเดินทางโดยรถส่วนตัวแทนที่จะขึ้นรถเมล์ ทำให้เกิดรถติดตามมา ปัญหานี้ไม่เคยมีผู้บริหารท่านใดที่มีความกล้าหาญในการเปลี่ยนแปลงและแก้ไข นอกจากนี้ ในรายงานของต่างประเทศหลายแห่งได้สรุปมาตรฐานของขสมก. ทั้งสภาพรถและระบบการเดินรถ ว่าอยู่ในระดับเดียวกับเวียดนามเท่านั้น และต่ำกว่ามาเลเซียและสิงคโปร์ ดิฉันจึงอยากเรียกร้องว่า ถึงเวลาแล้วหรือยังที่ท่านควรเลิกทำสิ่งเล็กๆน้อยๆ แล้วหันมาโฟกัสกับสิ่งที่ยิ่งใหญ่ นั่นคือการปรับปรุงรถโดยสารอย่างบูรณาการเป็นระบบ ดิฉันเชื่อมั่นว่าการร่วมมือกับหลายฝ่ายเช่น พนักงานขสมก. นักวิทยาศาสตร์ นักวิชาการ วิศวกร นักธุรกิจ จะทำให้เราได้ innovative solution ที่ดีโดยใช้งบประมาณน้อยที่สุด ดิฉันมีความเห็นว่า ขสมก. ควรยกเลิกระบบรถร่วมบริการ แต่ใช้เป็นการร่วมทุนแทนหากบริษัทใดสนใจเหมือนเช่นรถไฟฟ้าmrt และเป็นผู้นำในการเปลี่ยนรถโดยสารเดิมรวมทั้งยกเลิกngv ให้เป็นแบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า โดยร่วมมือกับภาคธุรกิจและมหาวิทยาลัยในการประกอบรถเองแทนการนำเข้า ดิฉันเชื่อมั่นว่าถ้ามีโครงการระดมทุนเพื่อพัฒนาระบบรถโดยสารไฟฟ้าที่ผลิตเอง คนกรุงเทพนั้นพร้อมใจกันช่วยเหลืออย่างแน่นอน นอกจากนี้ การจัดทำระบบการเดินรถใหม่ก็เป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งยวด ดิฉันเชื่อมั่นว่าคนกรุงเทพส่วนใหญ่ไม่มีใครชอบขับรถส่วนตัวไปทำงาน แต่สุดท้ายต้องเลือกรถส่วนตัวเพราะไม่อยากขึ้นรถเมล์ที่ร้อนและมีมลพิษ แต่กลุ่มคนอีกกลุ่มที่ไม่มีทางเลือกคือ นักเรียนนักศึกษาและผู้มีรายได้น้อย ตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมาเราปล่อยให้เด็กนักเรียนสูดควันดำจนมีรายงานเรื่องภาวะมลพิษบนถนนกับการลดลงของ study performane ของเด็กนักเรียน แต่ดูเหมือนว่าทางขสมก.ก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไร เพราะฉะนั้น มันถึงเวลาแล้วหรือยังที่ท่านจะเป็นหนึ่งในการเปลี่ยนโฉมหน้าของกรุงเทพ ให้ลูกหลานได้มีคุณภาพชีวิตในแบบที่ควรจะเป็นเสียที