เดือนตุลาคมดิฉันซื้อบัตรรายเดือนแต่เป็นแบบใหม่ที่เป็นบัตรอิเล็กทรอนิค และวันที่ 17 ตค. 2562 ดิฉันได้ขึ้นรถสาย ปอ.168 โดยขึ้นที่ป้ายสวนสันติภาพมาอนุสาวรีย์ชัยฯ โดยได้ส่งบัตรให้กระเป๋ารถเมล์สแกนไปหนึ่งครั้งก็แสกนได้ และดิฉันได้นั่งรถเมล์คันเดิมต่อจากอนุสาวรีย์ชัยเพื่อมาหน้ารามคำแหง และได้ส่งบัตรให้พนักงานสแกนแต่รอบนี้สแกนไม่ผ่านคะ ดิฉันก็ยืนยันว่าบัตรเป็นบัตรรายเดือนจ่ายเงินซื้อมาปกติ และเมื้อกี้ยังสแกนผ่านเลย (ก่อนวัันที่ 17 ตค. 62 ดิฉันก็เคยนั่งแบบนี้ คือนั่งจากป้ายสวนสันติภาพไปอนุสาวรีย์ และ นั่งจากอนุสาวรีย์ไปหน้าราม โดยรถคันเดิมก็สแกนผ่านนะคะ) ดิฉันพยายามยืนยัน และอธิบายให้ พนง. ฟัง แต่เธอก็บอกว่าไม่ผ่านและต้องให้ดิฉันจ่ายเงินสด ดิฉันไม่อยากอธิบายมากเพราะเสียงเริ่มดัง และ พนง.ก็เริ่มดึงผู้โดยสารคนอื่นมาเกี่ยวข้อง ดิฉันก็จ่ายเงินไป และบอกว่ามีใบเสร็จที่ซื้อบัตรเก็บไว้อยู่ ส่งให้ พนง.ดู เธอก็บอกว่า เออจริงด้วย แล้วเธอก็พูดว่าเมื้อกี้บอกว่าขึ้นจากสวนสันติภาพใช่ไหมเหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้ เลยพูดว่าบัตรจะใช้กลับรถคันเดิมไม่ได้ต้องรออีก 30 นาที และคืนเงินให้ดิฉัน พร้อมหันไปอธิบายให้ผู้โดยสารท่านอื่นฟัง สรุปคือดิฉันได้เงินคืน แต่ก็เสียความรู้สึกมากและคงจะเสียหน้าด้วยถ้าไม่ได้เก็บใบเสร็จไว้ ดิฉันอยากจะเสนอข้อคิดเห็นดังนี้ค่ะ 1. ขสมก. ควรให้ข้อมูล การใช้ตั๋วอิเล็คทรอนิคกับผู้ใช้บริการให้มากกว่านี้(ทุกข้อกำหนดและข้อจำกัด) เพราะคงมีผู้ใช้บริการหลายท่านที่ไม่รู้เรื่องนี้และคิดว่าบัตรรายเดือนจะขึ้นอย่างไรก็ได้ และคงมีหลายท่านที่ไม่ได้เก็บใบเสร็จไว้ และต้องเสียเงินใหม่โดยไม่มีข้อโต้แย้ง โดยไม่ใช่ความผิดของผู้ใช้บริการเลย หรือควรปรับระบบเพื่อรองรับการใช้ตั๋วต่อเนื่องในรถคันเดียวกัน 2. พนง.เก็บเงินบางท่านไม่นำเครื่องสแกนติดตัวมา และนำบัตรของบผู้โดยสารไปสแกนที่หน้ารถที่ตัวเองวางเครื่องไว้ โดยระหว่างทางก็เก็บเงินไปด้วย กว่าจะเอาบัตรมาคืนก็ใช้เวลาต้องคอยมองคะกลัวจะคืนผิดคน หรือมีใครมาแสดงความเป็นเจ้าของแล้วเอาไป เพราะปัตรก็ราคาตั้ง 1,020 บาทนะคะ และบางครั้งขึ้นแค่ 2 หรือ 3 ป้าย ต้องเดินตามไปรับคืน ดิฉันหวังว่่าทาง ขสมก. จะนำข้อเสนอแนะนี้ไปปรับปรุงการให้บริการให้ดีขึ้นนะคะ