รถเมล์สาย 134 และ 516 ขับเส้นทางระยะไกลนำคนนนท์ตั้งแต่แถบชานเมืองเข้าสู่กรุงเทพ ทำให้เป็นที่ต้องการของคนจำนวนมาก เมื่อก่อนมีรถครีมแดง รถน้ำเงิน รถเสริม ซึ่งปกติแม้แออัดแต่ก็ไม่ถึงขั้นไม่ได้นั่งเลยถึงปลายทาง แต่ในปัจจุบัน หลังมีการปฏิรูปเส้นทางรถเมล์ เห็นรถครีมแดงของสายนี้หายไป คิดว่าถูกนำไปใช้กับเส้นทางใหม่ เช่น 2-32, 166 หรืออื่นๆ ในระแวกใกล้เคียง ซึ่งปลายทางไม่ถึงอู่ของ 134 และ 516 ทำให้ปริมาณคนที่เพิ่มขึ้น ที่ใช้รถสายนี้ สวนทางกับจำนวนรถ และเกิดปัญหา ดังนี้ 1. ในช่วงเวลาเลิกงาน 17.30 - 18.30 น. ระยะเวลาในการรอรถนานมาก ตั้งแต่ 30 นาที จนถึง 1.30 นาที โดยถึงแม้จะรอที่ตรงข้ามเวสเกตที่มีสองสาย แต่กลับไม่ช่วยลดจำนวนคนรอได้ 2. คนแออัดตั้งแต่ต้นสายถึงปลายสาย ทำให้เกิดความไม่พอใขของผู้โดยสาร และเกิดมีการทะเลาะวิวาทหลายครั้ง 3. สภาพภายในรถบางจุดมีการสึกกร่อน ไม่ว่าจะน็อตราวหลวม แอร์น้ำหยด ที่จับบริเวณเบาะสึกหรอ และการทำความสะอาดราวจับที่แทบไม่เห็น 4. ปัญหา gps ระบุตำแหน่ง บางคันไม่ขึ้นระบบ บางคันขึ้น แต่เป็นรถภารกิจไม่รับผู้โดยสารคนอื่น และ 5. ปัญหาต่อพนักงานรถที่ทำงานลำบากขึ้น เนื่องจากต้องจัดการปัญหาข้างต้น ส่งผลต่อสุขภาพกายและจิตอย่างแน่นอนค่ะ แต่จากปัญหาดังกล่าวที่คนแออัด กลับพบว่าถ้าเป็นช่วงเวลาอื่น คนน้อยมาก และรถขับเร็ว แย่งผู้โดยสารกัน ทำให้มองว่าทาง ขสมก.ควรจัดระเบียบการเดินรถอย่างจริงจัง ใช้ข้อมูลสถิติมาวิเคราะห์ว่าช่วงเวลาไหนควรปล่อยรถเยอะหรือน้อย แต่ควรให้ช่องว่างการรอแต่ละป้ายไม่เกิน 15 นาทีค่ะ และอยากให้เพิ่มจำนวนรถด้วยค่ะ ปล.เป็นเพียงความเห็นของผู้โดยสารที่อยากพัฒนารถเมล์ให้ดีขึ้น และช่วยเหลือการเดินทางของคนไทยไปนานๆค่ะ ขอบคุณที่รับฟัง และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทาง ขสมก.สามารถจัดการให้ดียิ่งขึ้นได้ค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ ขอบคุณอีกครั้งค่ะ